“กีฬา ๆ เป็นยาวิเศษ” เป็นประโยคในเพลงที่คุ้นหูซึ่งแต่งมาเพื่อส่งเสริมให้คนหันมาเล่นกีฬากันเพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงกัน ซึ่งนั้นก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตาม การเล่นกีฬาให้ถูกวิธีรวมทั้งการลงแข่งคือเล่นให้พอประมาณไม่หักโหมมากจนเกินไปก็คือเป็นสิ่งที่ควรบอกตัวเองไว้เสมอ ตัวอย่างที่เห็นชัดเชนนั้นก็คือแม้แต่ นักเตะ อาชีพที่เล่นฟุตบอลอยู่ทุกวันก็ยังมีข่าว ช็อคเสียชีวิตมาแล้วซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากโรคหัวใจ ไม่ว่าจะช็อคหัวใจล้มเหลว หรือการที่หัวใจเต้นสูบฉีดแรงจนเกินไปจนน่าจะเป็นอันตราย ซึ่งก็มีนักเตะเกิดอาการช็อคแบบนี้มาแล้วมากมายหลายคน
โรคหัวใจกับอาการหัวใจวายของ นักเตะ

ไม่ต้องไปค้นหากันไกลหากย้อนกลับไปแค่ประมาณ 1 ปี ที่ผ่านมา ก็มีข่าวเกี่ยวกับนักเตะมีปัญหาทางระบบหัวใจและต้องออกจากสนามแข่งกลางการแข่งขันมาแล้วหลายคน เพราะอาการหัวใจล้มเหลวนั้นเป้นอาการที่มักจะซ่อนอยู่และไม่แสดงอาการชัดเจนเหมือนเวลาที่มีการแข่งขันแล้วผู้เล่นนั้นสองฝ่ายปะทะกันกลางสนามจนเกิดอาการบาดเจ็บจากแรงปะทะ เช่น ศีรษะโขกกระแทก หรือเลือดออกที่เท้าจากการโดนอัดจน บาดเจ็บ เป็นต้น คนแรกที่เราจะยกตัวอย่างนั้นก็คือ คริสเตียน อีริค เซ่น นักเตะชื่อดังชาวเดนมาร์ก ที่แข่งขันช่วยทีมในศึกยูโร 2020 ที่ดันไปเกิดอาการช็อคคาสนามและต้องให้ทีมแพทย์รีบยมาช่วยกันพยามบาลปั้มหัวใจคืนมาได้ แต่ก็ต้องอำลาทีมอินเตอร์มิลาน และย้ายมาที่ทีมเบรนท์ฟอร์ด เพราะการแข่งกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ไม่อนุญาตให้ผู้เล่นที่เป็นโรคหัวใจและต้องใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจลงในการแข่งขันกีฬาระดับอาชีพ

คนต่อมาก็คือ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ย้ายไปอยู่ มนุษย์ต่างดาว ยูเวนตุส ลงแข่งให้ทีมไปแค่ 4 นัด ก็ดันเกิดอาการหอบหายใจไม่ทันและเสี่ยงจะหัวใจวายไปอีกคน จนเมื่อทำการตรวจสอบก็พบว่ามีอาการหัวใจเต้นไม่ถูกจังหวะและต้องประกาศอำลาวงการไป

และล่าสุดกับข่าวที่ว่า อเล็กซานโดรส แลมปิส นักเตะหนุ่มน้อยวัยเพียง 21 ปี ของทีมออลอิอูโปลี ในรายการแข่งขันดิวิชั่น 3 ของประเทศกรีซ เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันและเสียชีวิตคาสนามในระหว่างการแข่งขันในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากเริ่มแข่งไปเพียง 4 นาทีเท่านั้น
ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวกีฬา บาสเกตบอล วอลเลย์บอล เทนนิส มวย ฟุตบอล ผลบอล